6-ปลั๊กอินที่ควรติดตั้ง
วิธีเลือก Plugin ฟรี เกรด A
รับทำเว็บไซต์ WordPress มีปลั๊กอินฟรีราวๆ 54,870 ตัว ที่นักพัฒนาทั่วโลกทำขึ้นมา แต่ในจำนวนทั้งหมดนี้ ก็ใช่ว่าจะมีคุณภาพทั้งหมด มีทั้งปลั๊กอินยอดนิยม คุณภาพสูง ปลั๊กอินที่หยุดพัฒนามาหลายปี รวมถึงยังมีปลั๊กอินที่มีบัค หรือมีปัญหาอีกจำนวนมาก เพราะฉะนั้นไม่ควรติดตั้งปลั๊กอินสุ่มสี่สุ่มห้า ควรมีวิธีเลือกปลั๊กอินที่มีคุณภาพ หรือที่ได้รับการแนะนำเท่านั้น
วิธีเลือก Plugin ฟรี มีคุณภาพ
-
เลือกปลั๊กอินที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงกับความต้องการ
-
Last Updated : ดูว่าอัพเดตครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ไม่ควรเกิน 1 ปี
-
Compatible up to : รองรับ WordPress เวอร์ชั่นล่าสุด หรือเทียบเท่าที่เรากำลังใช้
-
Active Installations : จำนวนการติดตั้งของปลั๊กอิน ยิ่งมาก แสดงว่าเป็นปลั๊กอินที่มีคุณภาพแน่นอน
-
Reviews : ดูคะแนนรีวิว มี 5 ดาวเยอะแค่ใหน และ คนอื่นกล่าวถึงอย่างไรบ้าง

ลองพิจารณาเลือกปลั๊กอินตามนี้ดูครับ โดยเแฉพาะ Last Update หากไม่ได้อัพเดตเกิน 1 ปีขึ้นไป นอกจากอาจจะมีปัญหาทำงานไม่เข้ากับธีม หรือปลั๊กอินอื่นๆ อาจจะเป็นช่องโหว่ของการแฮกก็ได้
วิธีเลือกซื้อ Plugin Pro มีคุณภาพ
“ของฟรีไม่มีในโลก” ปลั๊กอินฟรีก็สามารถใช้งานได้ดีในระดับนึง แต่หากเราต้องการใช้ฟีเจอร์เด็ดๆ มักจะหาไม่ค่อยเจอในปลั๊กอินตัวฟรี อาจจะเป็นเพราะความยากในการพัฒนาปลั๊กอิน ใช้คนจำนวนมาก ทำให้ผู้พัฒนาจำเป็นต้องมีรายได้ แต่ปลั๊กอินที่เราต้องเสียตังค์ซื้อเอง ก็ใช่ว่าจะมีคุณภาพเสมอไป หากเราไม่เลือกดีๆ ก็อาจจะได้ปลั๊กอินที่มีบัคก็ได้


เป็นปลั๊กอินช่วยในการทำ SEO (Search engine optimization) ทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับบนกูเกิลได้ง่ายขึ้น เป็นปลั๊กอินสำหรับทำ SEO ที่ดีที่สุด เท่าที่เคยใช้มา แม่กระทั้งเวอร์ชั่นฟรี ก็มีฟีเจอร์เด็ดๆ ให้เราได้ใช้กัน ปลั๊กอิน Yoast SEO ทำให้คนที่เขียนโค้ดไม่เป็น สามารถทำ SEO ได้ง่ายๆ และผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้ WordPress มักจะเริ่มต้นทำ SEO ด้วยปลั๊กอินตัวนี้กัน รับทำเว็บไซต์
ผมใช้ปลั๊กอิน Yoast นี้แหละในการทำ SEO Onpage บน WordPress หากใครยังไม่รู้ว่าการทำ SEO Onpage คืออะไร ทำอย่างไรบ้าง ลองไปอ่านบทควาทที่ผมเคยเขียนเมื่อไม่นานมานี้ และตอนนี้ก็ติดอันดับ TOP 3 แล้วด้วยนะ
ปลั๊กอิน Yoast SEO สามารถทำอะไรบ้าง?
- ใส่ Focus keyphrase หรือ Keyword หลัก
- เขียน SEO title
- เขียน Meta description
- SEO analysis ช่วยวิเคราะห์ว่า เราควรปรับอะไรบ้าง หากเราทำถูกหลักการ SEO มันก็จะขึ้นไฟเขียว หากทำไม่ถูกหลัก จะขึ้นแดงๆ ซึ่งเป็นฟีเจอร์เด็ดที่ผมโคตรชอบ และดีสำหรับมือใหม่มากๆ
- ตั้งค่า Social share
- Sitemap สำหรับอัพโหลดไปที่ Google Web master tools
- Robots.txt
- Breadcrumbs
2. All In One WP Security & Firewall
เป็นปลั๊กอินด้านความปลอดภัย ที่ใช้งานง่าย จริงๆ แล้วเวิร์ดเพรสเองก็เป็นเพลตฟอร์มที่มาตรฐานสูง มีความปลอดภัยในตัวอยู่แล้ว แต่การใช้ปลั๊กอินด้านความปลอดภัยเสริมเข้ามา ช่วยยกระดับให้เว็บไซต์เราปลอดภัยยิ่งขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงที่จะโดนแฮกให้น้อยลง ปลั๊กอิน All In One WP Security & Firewall ค่อนข้างมีฟีเจอร์ที่ครบเครื่อง จบในตัวเดียวจริงๆ

3. ปลั๊กอิน Page Builder
ปลั๊กอิน Page Builder เป็นตัวจัดหน้าเว็บ จัดวาง Layout ได้อย่างอิสระและสวยงาม ได้ด้วยการ Drag & Drop คือลากๆ วางๆ ก็ได้หน้าเพจสวยได้ ซึ่งมันก็มีหลายตัวเลือกให้เราใช้ มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินซื้อ การใช้งานก็แตกต่างกันในเรื่องการตั้งค่า แต่โดยปกติถ้าสามารถใช้งานได้ตัวนึง ก็สามารถใช้ตัวอื่นได้ไม่ยากมาก
Page Builder ยอดนิยม
4. WooCommerce

WooCommerce เป็นปลั๊กอินสำหรับทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ สามารถเปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดาของคุณ ให้เป็นเว็บไซต์ e-commerce ได้ง่ายๆ การใช้งานไม่ยากมาก เหมาะสำหรับร้านค้าขนาดเล็ก จนถึงขนาดกลาง สินค้าตั้งแต่ 1 ชิ้น จนถึงหลักพัน ถ้ามากกว่านั้นผมแนะนำ เตรียมงบพัฒนาขึ้นมาเองจะดีกว่า
5. ปลั๊กอิน Slider

เว็บไซต์ในไทยและต่างประเทศ ค่อนข้างนิยมใส่ Slider ในหน้าแรกกัน เพราะเป็นตำแหน่งที่เด่นที่สุด เหมาะสำหรับการนำเสนอสินค้าใหม่ โปรโมชั่น ข้อดีคือสามารถใส่ได้ไม่จำกัด แต่แนะนำไม่ควรเกิน 5 Slide ถ้าเกินกว่านี้ จะกระทบกับ Speed ของเว็บไซต์ทำให้ช้า
6. WP Fastest Cache

เป็นปลั๊กอินสำหรับเก็บแคช เพื่อทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น เป็นปลั๊กอินอีกตัวที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้าไม่ใช้ปลั๊กอินเก็บแคช ทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ส่งผลต่อในเรื่อง SEO หรืออันดับของ รับทำเว็บไซต์ ระบบGoogle ด้วยนะ ใช้แล้วมีแต่ดีกับดีครับ
แหล่งขายปลั๊กอิน WordPress Premium
ปลั๊กอิน WordPress แบบฟรี ก็เพียงพอแล้วระดับนึง แต่หากต้องการฟีเจอร์ที่ทำอะไรได้มากกว่าเดิม อาจจะเป็นปลั๊กอินเฉพาะด้าน เช่น ปลั๊กอิน Slider, ปลั๊กอินจัดหน้า Page Builder, ปลั๊กอินตกแต่งเว็บอื่นๆ แต่นอกจากฟีเจอร์ที่ครอบจักรวาลแล้ว สิ่งที่ผมแนะนำให้ซื้อ ปลั๊กอิน WordPress Premium คือเรื่อง Support หากเราใช้ไปแล้วมีปัญหา หรือตั้งค่าไม่ถูก ก็สามารถส่งข้อความหาทีม Support ของปลั๊กอินที่เราซื้อได้
7 ขั้นตอน การตั้งค่า รับทำเว็บไซต์ WordPress
วิธีเลือกซื้อปลั๊กอิน WordPress Premium
- เลือกซื้อที่มียอดขายเยอะที่สุด เรียงลำดับ
- เลือกที่มียอด Reivew ตั้งแต่ 4.5 ดาวขึ้นไป
- Support ตอบไว