ติดหน้าแรก google ฟรี ด้วยวิธีการทำ SEO โดยใช้เงิน 0 บาท [Checklist]
การโปรโมทเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกของ Google มี 2 วิธีหลัก คือ ยิงโฆษณา และ ทำ SEO ซึ่งการทำ SEO ก็ไม่ใช่งานง่ายกว่าจะติดหน้าแรก ส่วนใหญ่มักจะจ้างทำ แต่ในบทความนี้ ผมจะพาแนะนำวิธีทำ SEO ติดหน้าแรก google ฟรี สามารถทำตามเองได้เลย
มีหลายคนถามมาว่า ไปจ้างทำเว็บไซต์ด้วย WordPress มา แต่ทำไมไม่ติดกูเกิลสักที! มันไม่ได้ติดกูเกิลอัตโนมัติเลยหรอ? บางคนไปจ้างบริษัททำเว็บหมดไปหลายหมื่นบาท แต่ยอดคนเข้าเว็บแทบจะไม่มีเลย บางเจ้าก็จัดการเรื่องนี้ให้เราด้วยก็รอดไป
จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำหลังจากรับทำเว็บไซต์เสร็จ เพื่อให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกในกูเกิลไม่มากก็น้อย อย่างน้อยๆก็คุ้มค่ากับเงินที่เสียค่าจ้างทำเว็บไป
ปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ ไม่มีเว็บไซต์ไม่ได้แล้ว เพราะพฤติกรรมการซื้อ-ขายในตอนนี้ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สินค้าทุกอย่าง ตั้งแต่ ไม้จิ้มฟัน ยันเรือรบ มีขายอยู่ทั่วไปในเว็บไซต์ ปี 2020 ยอดผู้ใช้ Internet เพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าจาก 10 ที่ผ่านมา
เพราะฉะนั้น ธุรกิจต้องรู้จักปรับตัว ผมได้เขียนบทความ วิธีปรับตัวของธุรกิจ ในยุคที่ e-commerce เต็มบ้านเต็มเมือง ในบทความนี้เราจะมารู้จัก 5 วิธี ที่ทำให้เว็บที่ทำด้วย WordPress ปรากฏในกูเกิล
1. ตั้งค่า Search Engine Visibility ใน WordPress
หลังจากที่ทำเว็บเสร็จแล้ว ขั้นตอนแรกให้เราไปที่หลังบ้าน ที่เมนู Settings > Reading : และเลื่อนลงมาด้านล่าง ให้เราติ๊กออกตรงที่ Search Engine Visibility และกด Save Changes
2. ติดตั้งปลั๊กอินสำหรับ SEO
หลังจากที่เราตั้งค่า Search Engine Visibility เรียบร้อย ถัดมา เราต้องติดตั้งปลั๊กอินสำหรับการตั้งค่า SEO ซึ่งมีหลายตัวที่ดีๆ แต่ตัวที่ผมใช้อยู่คือ Yoast SEO หากเราติดตั้งเรียบร้อย เราจะเห็นเมนูการตั้งค่าฝั่งซ้ายมือ
และในหน้า Page และหน้า Post ระบบก็จะแสดงแท็บการตั้งค่า SEO Title, SEO Description พร้อมมีคำแนะนำว่า เขียนอย่างไรให้ถูกหลัก SEO
3. สร้างไฟล์ robots.txt ด้วยปลั๊กอิน Yoast SEO
Robots.txt คือ เป็นไฟล์ธรรมดาไฟล์นึง ที่สามารถสั่งอนุญาติให้ Search engines เก็บข้อมูลเพื่อจัดอันดับ หรือไม่ต้องการให้เก็บข้อมูลส่วนใหนของเว็บไซต์ เป็นไฟล์แรกที่ Bot ของกูเกิลเจอ คอยหาลิงก์ หรือ ไฟล์ต่างๆ พูดง่ายๆ คือเป็นประตูด่านแรกของการจัดอันดับบนกูเกิล อีกชื่อนึงที่ชอบเรียกกันคือ Crawlers
การมีไฟล์ robots.txt อยู่ในเว็บไซต์ จะช่วยให้ Bot ของ Search engines เจอเราได้เร็วขึ้น คนที่อยู่ในสาย SEO อยู่แล้ว ควรเข้าใจการทำงานของ robots เป็นอย่างยิ่ง เพราะหากเราอ่าน Code ได้แล้ว ก็สามารถควบคุมการจัดอันดับได้
สำหรับคนที่ไม่รู้โค้ด ก็ไม่ต้องกังวลนะ เพราะสามารถไปหาในเน็ตได้ทั่วไป แค่คัดลอกมาวางให้ถูกจุด
แต่ถ้าทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ก็จะมีปลั๊กอิน Yoast SEO สามารถสร้างไฟล์ robots.txt ได้ง่ายๆ
- ไปที่เมนู SEO คลิก “Tools”
- คลิก “File editor”
- คลิกปุ่ม “Create robots.txt file”
- เราสามารถแก้ไขโค้ดไฟล์ robots.txt หากไม่ต้องการแก้ไข ก็ให้คลิก “Save changes to Robots.txt”
4. เชื่อมเว็บกับ Google Search Console
Google Search Console เป็นเครื่องมือติดตามประสิทธิภาพการค้นหาของรับทำเว็บไซต์ มีความคล้ายคลึงกับ Analytics แต่ตัวนี้จะมาแนวประสิทธิภาพเชิงเทคนิคมากกว่า รายงานผลการคลิก การแสดงผล ค่า CTR อันดับเฉลี่ย
และยังเป็นเครื่องมือที่คอยรายงานปัญหาต่างๆ มีการแจ้งเตือนเมื่อเว็บไซต์โดนแฮก การแสดงผลในมือถือ คะแนน Speed ของเว็บไซต์ และปัญหาที่อาจจะส่งผลต่ออันดับ SEO
ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นตอนนึงที่เราควรทำเป็นอย่างยิ่ง คือการเพิ่มเว็บไซต์เราใน Google Search Console ถ้าใครยังไม่ได้เปิดบัญชี ก็ไปสมัครก่อนเลยครับ
จากรูปด้านล่าง เป็นตัวอย่างหน้าตาของระบบ
5. อัพ Sitemap ใน Google Search Console
หลังจากที่เรา เพิ่มเว็บไซต์ของเราเรียบร้อย อย่าลืมที่จะอัพโหลด Sitemap ของ WordPress ไปด้วยครับ ซึงมันจะอยู่ในรูปแบบของ XML ถ้าใครใช้ Yoast SEO ระบบจะสร้างให้เราเรียบร้อย
ให้เราไปที่เมนู “แผนผังไซต์” > เพิ่ม/ทดสอบแผนผังเว็บไซต์ และกรอก sitemap.xml ในช่อบ และกดส่ง เพียงเท่านี้ก็แค่รอให้ Google Bot มาเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของเรา
6. Research หา Keyword ที่มีการค้นเยอะๆ มาใส่ในเว็บ
ขั้นตอนสุดท้าย คือการกระจาย Keyword ที่ตรงกับธุรกิจของเรามากระจายในแต่ละหน้าของเว็บ ให้ถูกต้องตามหลัก SEO หากใครยังไม่มีพื้นฐานการเขียนบทความ ให้ถูกหลัก SEO ก็ลองค้นหาในกูเกิลได้เลยครับ มีคนสอนเยอะ และผมเองก็เคยเขียนบทความเกี่ยวกับ เทคนิคหา Keyword คุณภาพให้กับเว็บไซต์ ลองแวะเข้าไปอ่านได้ครับ เผื่อได้เทคนิคดีๆ ไปประยุกต์กับเว็บไซต์
7. ทำ On-Page SEO
หลังจากที่เรา Set-UP พื้นฐานของ WordPress เรียบร้อยแล้ว ถัดมาและเป็นขั้นตอนที่สำคัญ คือการทำ On-Page SEO การทำ On-Page SEO เป็นการปรับแต่งหน้าเว็บ โครงสร้างเว็บ ให้ถูกต้องตามหลัก SEO
On-Page SEO Checklist : ต้องทำอะไรบ้าง
-
เทคนิคการหา Keyword
-
Focus Keyword
-
Meta tags
-
Meta Description
-
Image alt attributes
-
ใส่ Keyword ใน paragraph แรก
-
Internal links – ลิงค์ภายใน
-
External links – ลิงค์ภายนอก
-
เขียน URL ให้กระชับ
-
กำจัด Duplicate Content
-
Image Optimization เพื่อให้เว็บโหลดเร็วขึ้น
-
หลีกเลี่ยง 404 หรือลิงค์เสีย
-
การจัดวางตำแหน่ง Keyword
-
โครงสร้างของ Content
อ่านบทความฉบับเต็ม อธิบายเกี่ยวกับการทำ On-Page SEO แบบละเอียด On-Page SEO บน WordPress เทคนิคพื้นฐานที่ต้องทำ
8. ทำ Content ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ข้อนี้น่าจะตรงประเด็นที่สุด สมมติว่าเราเว็บขายจักรยาน แสดงว่าในเว็บไซต์เรา เราก็ต้องพูดถึงเกี่ยวกับจักรยาน จุดเด่น จุดเด่น รายละเอียดของจักรยานที่เราขาย และทำบทความความรู้เกี่ยวกับจักรยาน
เพื่อให้กูเกิลรู้ว่า เรานี่แหละคือผู้เชี่ยวชาญด้านจักรยาน ดีกว่าคู่แข่ง กูเกิลจึงขยับอันดับให้เราให้อยู่อันดับต้นๆ
ซึ่งการที่เราจะรู้ได้ว่า กลุ่มเป้าหมายเรากำลังถามหาอะไรอยู่ เราต้อง Research หา Keyword คุณภาพ ที่มียอดค้นหาสูงๆ มาปรับใช้ในเว็บไซต์เรา
แค่นี้ก็ช่วยให้เว็บไซต์ของเรา ติดหน้าแรกได้ฟรีๆ ได้แล้ว ไม่ต้องทำโฆษณาใดๆ
สรุปง่ายๆ คือ ลูกค้ากำลังหาอะไร เราก็ทำ Content มารองรับ แค่นี้ โอกาสที่เราจะติดหน้าแรกไม่ยากเลยครับ
รับทำเว็บไซต์ แนะนำที่ไหนดี ราคาทำเว็บไซต์และต้องรู้อะไรบ้าง
ติดต่อ-สอบถาม